วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

1.ข้อมูลทั่วไป

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อประเทศอย่างเป็นทางการ : สหพันธรัฐมาเลเซีย หรือ มาเลเซีย (Federation of Malaysia)
เมืองหลวง : กัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)
พื้นที่ : 330,800 ตารางกิโลเมตร 
เขตแดน : ด้านทิศเหนือติดกับ ประเทศไทยทิศใต้ติดกับสิงคโปร์ ทิศตะวันตกติดกับช่องแคบมะละกา ทิศตะวันออกติดกับ ทะเลจีนใต้กั้นส่วนที่เป็นแหลมมลายู
ประชากร : 29.30 ล้านคน 
วันชาติ : 31 สิงหาคม
ภาษาทางราชการ : ภาษามาเลย์ (Bahasa Malaysia)
ระบบการปกครอง : ระบบประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐ โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีเป็นประมุข
ธงชาติ : ธงชาติมาเลเซีย หรือ ยาลูร์ เกมิลัง(Jalur Gemilang) มีลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 
1 ส่วน ยาว 2 ส่วนพื้นสีแดงสลับสีขาว รวม 13 แถบแต่ละแถบมีความกว้างเท่ากัน ที่มุมธงด้านคันธงมีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีน้ำเงินกว้าง 8 ใน 13 ส่วนของผืนธงภายในบรรจุเครื่องหมายพระจันทร์เสี้ยวและดาว 
14 แฉกที่มีชื่อว่า “บินตัง เปอร์เซกูตัน”(“Bintang Persekutuan”) หรือ“ดาราสหพันธ์” 


2.ลักษณะทางภูมิศาสตร์

 ลักษณะทางภูมิศาสตร์

                 มาเลเซียเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบ่งลักษณะ
ทางภูมิประเทศออกเป็น 2 ส่วน โดยมีทะเลจีนใต้กั้น
                ส่วนแรกคือ คาบสมุทรมลายูมีพรมแดนทิศเหนือติดประเทศไทย
และทิศใต้ติดสิงคโปร์ ภูมิประเทศบนแหลมมลายูเป็นหนองบึงตามชายฝั่ง
และพื้นดินจะสูงขึ้นเป็นลำดับ จนกลายเป็นแนวเขาด้านในของประเทศ
โดยมีพื้นที่ราบอยู่ระหว่างแม่น้ำสายต่างๆ พื้นดินไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก
แต่เหมาะสำหรับปลูกยางพาราและต้นปาล์ม              
                ส่วนที่สองคือ ทางเหนือของเกาะบอร์เนียวมีพรมแดนทิศใต้
ติดอินโดนีเซีย และมีพรมแดนล้อมรอบประเทศบรูไน ภูมิประเทศ
บนเกาะบอร์เนียวเป็นพื้นที่ราบตามชายฝั่ง และมีภูเขาเรียงราย
อยู่ด้านในทางตอนเหนือของเกาะเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญ

ลักษณะภูมิอากาศ

            มาเลเซียตั้งอยู่ในเขตภูมิอากาศภาคพื้นสมุทร อากาศร้อนชื้นและ
ฝนตกชุก อยู่ภายใต้อิทธิพลของกระแสลมจากมหาสมุทรอินเดียและ
ทะเลจีนใต้ ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงมรสุม
ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทำให้เกิดฝนในเขตชายฝั่งตะวันออก
ระหว่างกลางเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายนเป็นช่วงมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
อุณหภูมิประจำวันโดยเฉลี่ยแตกต่างกันระหว่าง 21 - 35 องศาเซลเซียส
ความชื้นประมาณร้อยละ 80
จำนวนน้ำฝนวัดได้ต่อปีอยู่ระหว่าง 2,032 ถึง 2,540 มิลลิเมตร 

3.ประวัติศาสตร์โดยย่อ

 ประวัติศาสตร์โดยย่อ

      เมื่อประมาณพันปีมาแล้ว บริเวณอันเป็นที่อยู่ของมาเลเซียในปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรศรีวิชัย ศูนย์กลางความเจริญทางการค้าของภูมิภาคได้ไปอยู่ที่เมืองมะละกา ซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของคาบสมุทรแหลมมลายูที่อยู่ ตรงข้ามเกาะสุมาตรา เมืองมะละกาเป็นศูนย์กลางการค้าการเดินเรือ ที่สำคัญ จึงเรียกขานช่องแคบนี้ว่าช่องแคบมะละกา
    ในยุคอาณานิคมโปรตุเกสเป็นยุโรปชาติแรกที่เข้ามายึดครองมะละกา  ตามมาด้วยประเทศฮอลแลนด์ มีจุดมุ่งหมายต้องการติดต่อค้าขายและเผยแพร่ ศาสนาคริสต์มากกว่า จนกระทั่งได้เปลี่ยนผู้ครอบครอง มาเป็นจักรภพอังกฤษ
อังกฤษได้มอบเอกราชให้แก่ดินแดนมลายูเกือบทั้งหมดภายใต้ชื่อว่า “สหพันธรัฐมาลายา”
(Federation of Malaya) และเปลี่ยนชื่อเป็นสหพันธรัฐมาเลเซีย

4. ลักษณะประชากร

  ลักษณะประชากร

มาเลเซียประกอบด้วยชนจากหลายเผ่าพันธุ์ (พหุสังคม) รวมกันอยู่ บนแหลมมลายูมาหลายร้อยปี ซึ่งในปัจจุบันประกอบด้วยเชื้อชาติใหญ่ๆ 28 3 กลุ่ม คือ ชาวมลายู ชาวจีน และชาวอินเดีย ที่อาศัยอยู่บนแหลมมลายู เป็นส่วนใหญ่ ส่วนชนพื้นเมืองอื่นๆ




ทั้งนี้สามารถแบ่งประชากร ตามเชื่อชาติแล้ว จะเป็นชาวมลายู 14.072 ล้านคน (ร้อยละ 49.68) จีน 6.465 ล้านคน (ร้อยละ 22.82) ภูมิบุตรที่ไม่ใช่มลายู 3.038 ล้านคน (ร้อยละ 10.73) อินเดีย 1.929 ล้านคน (ร้อยละ 6.81) อื่นๆ 0.361 ล้านคน (ร้อยละ 1.27) และผู้ที่ไม่ได้ถือสัญชาติมาเลย์ 2.461 ล้านคน

5.ข้อมูลเศรษฐกิจ

ข้อมูลเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ริเริ่มนโยบายการปฏิรูปและพัฒนาให้ มาเลเซียก้าวไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งต้องทำให้มีรายได้มวลรวม ประชาชาติ (Gross National Income - GNI) ถึง 15,000 ดอลลาร์ สหรัฐต่อคนต่อปี ตามวิสัยทัศน์ พ.ศ. 2563 (Vision 2020) การค้าระหว่างประเทศของมาเลเซียกับทั่วโลกมีมูลค่ารวม 3.64 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกมูลค่า 1.99 แสนล้านดอลลาร์ สหรัฐ และเป็นการนำเข้ามูลค่า 1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มาเลเซีย ได้ดุลการค้า 34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  ระบบบริหารราชการของสหพันธรัฐมาเลเซีย 29 1.1.6 ข้อมูลการเมืองการปกครอง



สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปาล์มนำ้มัน ก๊าซธรรมชาติ เคมีภัณฑ์ นำ้มันเชื้อเพลิง นำ้มันดิบ เครื่องจักร และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ
สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะ น้ำมันเชื้อเพลิง เหล็ก และเหล็กกล้า และน้ำมันดิบ 

6.ข้อมูลการเมืองการปกครอง

ข้อมูลการเมืองการปกครอง

ประเทศมาเลเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 รัฐ และ 3 ดินแดนสหพันธ์ เป็นดินแดนที่รัฐบาลกลางหรือรัฐบาลสหพันธรัฐ ปกครอง เขตการปกครองต่างๆ และชื่อเมืองหลวง ได้แก่ 
มาเลเซียตะวันตก ได้แก่ กัวลาลัมเปอร์ และปุตราจายา 
มาเลเซียตะวันออก ได้แก่ ลาบวน (วิกตอเรีย) 
มาเลเซียตะวันตก (คาบสมุทรมลายู) 
มาเลเซียตะวันออก (เกาะบอร์เนียวตอนเหนือ) 

การแบ่งอำนาจการปกครอง ในด้านการปกครอง แบ่งการปกครองออกเป็น 3 ส่วนดังนี้  1. การปกครองส่วนกลาง ประกอบด้วย กระทรวง 24 กระทรวง กรม และกองต่างๆ 2. การปกครองส่วนภูมิภาคจะแตกต่างจากประเทศไทยที่ไม่มีจังหวัด และโครงสร้างที่ใช้การแต่งตั้งจากส่วนกลาง ตั้งแต่หน่วยการปกครอง ระดับอำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน มีฐานะเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวง การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น

7.ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม

ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรม

          หลังจากประเทศอังกฤษได้เข้ามาปกครองมาเลเซียในช่วงปี พ.ศ. 2369 ได้มีกลุ่มชาวจีนและชาวอินเดียเป็นจำนวนมากเข้ามา ประกอบอาชีพค้าขาย จึงเพิ่มความหลากหลายทางสังคมและ วัฒนธรรม ทำให้มาเลเซียเป็นประเทศที่มีประชากร ที่มีความหลากหลายทางศาสนาและเชื้อชาติ  ในด้านสังคมและวัฒนธรรมของมาเลเซียแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันออกไป ที่ยึดถือทางฝ่ายบิดาเป็นผู้รับมรดกสืบทอด เป็นขนบธรรมเนียมที่ยึดถือ ในรัฐส่วนใหญ่ของแหลมมลายู
(ยกเว้นรัฐเนกรีเซมบีลัน)



ซึ่งเป็นขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ยึดถือมาตั้งแต่ยุคมะละกาแผ่ขยายไปรัฐต่างๆ ทั่วแหลมมลายู ขนบธรรมเนียมนี้จัดตั้งขึ้นโดย Datuk Ketemanggungan จาก เกาะสุมาตรา มีการผสมผสานเข้ากับขนบธรรมเนียมเดิมที่มีอยู่แล้ว เกิดเป็นกฎหมายที่แตกต่างกัน ส่วนชาวมลายูที่ยึดถือขนบธรรมเนียม ประเพณีแบบ Adat Minangkabau หรือ Adat Perpatih เป็น ขนบธรรมเนียมที่ยึดถือในรัฐเนกรีเซมบีลันและบางส่วนของรัฐมะละกา